e-tax invoice คือ ใบวางบิล หรือ ใบแจ้งหนี้ ที่ทางองค์กรนั้นจะส่งให้กับพนักงาน หรือลูกค้าที่เข้ามาร่วมทำธุรกิจกันด้วย ซึ่งในทุกวันนี้ การทำใบแจ้งหนี้หรือ Invoiceสามรถทำได้แล้วในรูปแบบออนไลน์ เพื่อที่จะให้มีความรวดเร็วในการทำงานมากยิ่งขึ้น และส่วนใหญ่ในตอนนี้การส่งใบแจ้งหนี้แบบออนไลน์นั้น ก็จะช่วยทำให้มีความสะดวกในการชำระหนี้ได้สะดวมากขึ้นด้วย

ดังนั้น ในบทความของทางเราวันนี้ ก็จะพาทุกคน มาทำความรู้จักกับใบแจ้งหนี้ และใบเสร็จรับเงินกันว่า มีความแตกต่างกันอย่างไร เนื่องจากว่าทั้งสองอย่างนี้ มีความเหมือน และความต่างเล็กน้อย แต่เป็นคนละแบบกันแน่นอน ถ้าหากว่าพร้อมแล้วก็ดูไปพร้อม ๆ กันเลย

e-tax invoice คือ อะไร จำเป็นต้องมีทุกองค์กรเลยหรือไม่

ใบแจ้งหนี้ หรือ e-tax invoice คือ ใบที่ทำขึ้นมาเพื่อแจ้งการชำระเงินต่าง ๆ เช่น การแจ้งหนี้บัตรเครดิต หรือการแจ้งหนี้ต่าง ๆ ต้องบอกเลยว่า จำเป็นต้องมีทุกองค์กร เพื่อที่จะให้การแจ้งหนี้ หรือจ่ายหนี้ เป็นไปด้วยความสะดวก และมีลายลักษณ์อักษรต่าง ๆ เพื่อที่จะให้ทุกคนได้รู้ทั่วถึงกันว่า มีการแจ้งหนี้แบบเป็นทางการ

ซึ่งในการใช้ Invoice ส่วนมากจะเป็นการส่งมาแจ้งให้ชำระหนี้ภายในวันที่กำหนด ถ้าหากว่าบริษัทไม่มีใบแจ้งหนี้นั้นอาจจะทำให้องค์กรดูมีความไม่น่าเชื่อถือ นอกจากนี้ ในปัจจุบัน การใช้ใบแจ้งหนี้ จะอยู่ในรูปแบบออนไลน์ เพื่อที่จะให้มีการทำงานที่เรียบง่ายมากกว่าเดิมด้วย ซึ่งองค์กรหลาย ๆ ที่ก็เริ่มจะออกแบบฟอร์ม Invoice ในรูปแบบออนไลน์ เพื่อให้มีความเรียบร้อย และทำงานได้ง่ายมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ใบแจ้งหนี้ สามารถนำมาเป็นหลักฐานได้ ถ้าหากว่าคุณนั้นทำการจ่ายหนี้ไปแล้ว และยอดยังไม่เข้าสู่ระบบ คุณนำสลิป และใบแจ้งหนี้มายื่นได้เลยทันที โดยหน้าที่นี้จะเป็นของตำแหน่งบัญชี แต่ถ้าหากว่าคุณจะยื่นขอใบ Invoice ผ่านทางระบบออนไลน์ หรือ ผ่านทางแอพฯ ก็จะง่ายขึ้นมากอีกหนึ่งเสต็ปด้วย

ข้อมูลในรายละเอียดของ e-tax invoiceคือ อะไรบ้าง พร้อมขั้นตอนการวางบิลโดยละเอียด

รายละเอียดของการวางบิล e-tax invoiceคือ มีรายละเอียดที่ใช้งานกันได้แบบไม่มีการปิดระบบ ซึ่งขั้นตอนในการวางบิลโดยละเอียดนั้น ก็มีอยู่ไม่เยอะมาก ดังนั้นเราจะพาทุกคนมาดูกันว่ารายละเอียดของการใช้งาน e-tax invoiceนั้นควรจะมีอะไร และขั้นตอนการวางบิลมีอะไรบ้าง

1. ต้องมีคำว่าใบแจ้งหนี้แจ้งด้วยทุกคน
2. ชื่อ-ที่อยู่เลขทะเบียนของผู้ที่ขาย เบอร์ติดต่อ ทั้งสำนักงาน และสาขา
3. เลขที่เอกสารใบแจ้งหนี้ และวันที่ออกใบแจ้งหนี้ ให้ชัดเจน
4. วันชำระเงินตามกำหนดตามที่ตกลง
5. รายละเอียดของการบริการ และสินค้า
6. จำนวนค่าสินค้า และการบริการ
7. ลายเซ็นผู้ซื้อ และผู้ขาย

 

วิธีการวางบิล invoice (ใบแจ้งหนี้)

· ผู้ที่ทำการส่งใบแจ้งหนี้ จะต้องถามกับทางลูกค้าของบริษัทก่อน ในเรื่องของวิธีการแจ้งหนี้ เพราะแต่ละบริษัท จะมีวิธีการที่แตกต่างกันออกไป เช่น บางที่ต้องการใบแจ้งหนี้แบบเป็น Paper เพื่อที่จะให้ Messenger มาส่งให้ หรือ บางบริษัทอาจจะให้ส่งงานทางอีเมล์ เพื่อความสะดวกในการใช้งาน

· ทำการดำเนินการวางบิลตามที่บริษัทมีการกำหนดออกมา

· หลังจากที่วางบิลเรียบร้อยแล้ว ผู้มีอำนาจจะต้องเซ็นในใบแจ้งหนี้ และให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวของนั้นลงนามด้วยเช่นเดียวกัน

เครดิตรูปภาพจาก : www.freepik.com

สามารถทดสอบใช้งานระบบ Cloud Account ฟรี : http://www.cloudaccount.biz